Posted by: onemanf_webmaster In: จุดประกายอาชีพ
ต้องยอมรับความจริงอย่างหนึ่งว่า บริษัท เอพีเอ็ม กรุ๊ป ที่มี "อริญญา เถลิงศรี" นั่งตำแหน่งกรรมการผู้จักการ เป็นผู้มีบทบาทอย่างมากที่ทำให้องค์กรต่างๆในประเทศไทย รวมถึงผู้บริหารขององค์กรต่างๆ มีการพัฒนาไปในระดับเทียบเคียงกับนานาชาติ
ทั้งนั้นเพราะธุรกิจของเอพีเอ็ม กรุ๊ป ไม่เพียงเป็นธุรกิจที่ปรึกษาการพัฒนาองค์กร และบุคลากรเพียงอย่างเดียว หากธุรกิจของเอพีเอ็ม กรุ๊ป ยังครอบคลุมถึงเรื่องการฝึกอบรม และการพัฒนาด้านการฝึกอบรม การให้บริการทางด้านองค์ความรู้แก่ฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ ไอที และการตลาด
ทั้งยังมีเครื่องมือ Extended DISC (Thailand) มาประยุกต์ใช้ในการประเมิน วัดผล และวัดประสิทธิภาพของบุคลากรในองค์กร
และอื่นๆ อีกมากมาย
ผลเช่นนี้ จึงทำให้บริษัท เอพีเอ็ม กรุ๊ป จึงเป็นบริษัทระดับต้นๆ ของเมืองไทย ที่หลายองค์กรชั้นนำในประเทศ รวมถึงองค์กรต่างๆ ในอาเซียนต่างเรียกเอพีเอ็ม กรุ๊ป เข้ามาเป็นที่ปรึกษา
เพราะเขาทราบดีว่าปัจจุบันไม่ได้แข่งขันเฉพาะเครื่องมือ หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัย หากแข่งขันกันที่ “คน” และถ้าบริษัทไหนมี “คนเก่ง+คนดี+ทัศนคติ” ที่ดีเป็นจำนวนมาก ก็ยิ่งจะทำให้องค์กรนั้นๆ ก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน
เนื่องจาก “ทุนมนุษย์” เป็นเรื่องสำคัญมาก
“แนวคิดเรื่องทุนมนุษย์ ตอนนี้ทางผู้บริหารขององค์กรต่างๆ เริ่มให้ความสำคัญมากขึ้น เพราะปัจจุบัน ซีอีโอ, เอ็มดี, หรือประธานบริษัทต่างทราบแล้วว่า ในยุคของการแข่งขันขณะนี้ เรื่องของคนเป็นต้นทุนที่สำคัญ และเมื่อเราลงทุนกับคนแล้ว คนจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้น”
“แต่ทั้งนั้น ผู้บริหารจะต้องมีวิธีดำเนินการให้กับคนด้วยว่าจะมีแนวทางในการพัฒนาอย่างไร ถึงแม้ในวันนี้ผู้บริหารแต่ละองค์กรอาจมีการให้ที่แตกต่างกันไป แต่ที่สุด ผู้บริหารส่วนใหญ่ ก็เริ่มตระหนัก และเห็นความสำคัญต่อเรื่องทุนมนุษย์บ้างแล้ว”
“ยกตัวอย่าง สายการบินสิงคโปร์ แอร์ไลน์ เขาเป็นบริษัทที่ให้ความสำคัญกับทุนมนุษย์ค่อนข้างมาก หรืออย่างเช่น บริษัท ซัมซุง ของเกาหลีใต้ วันนี้เขาค่อนข้างภูมิใจ เพราะเขาเริ่มจากการเล็งเห็นความสำคัญของทุนมนุษย์ และเขาลงทุนสำหรับเรื่องนี้ค่อนข้างมาก”
“ที่ไม่เพียงจะส่งผลโดยตรงกับแบรนด์ หากในตลาดตอนนี้แบรนด์ซัมซุงยังก้าวไกล จนหลายประเทศให้ความไว้วางใจ และให้การยอมรับ จนสามารถนำขึ้นไปวางขายในห้างสรรพสินค้าใหญ่ ฉะนั้น จะเห็นว่าเมื่อเขาลงทุนกับคน และเอาคนมาเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ ก็สามารถทำให้เกิดกระบวนการขาย จนส่งผลต่อชื่อเสียงของประเทศเกาหลีใต้ในที่สุด”
“อริญญา” ยอมรับว่าความคิดเช่นนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากระบบการศึกษา และไม่ได้เกิดขึ้นจากประสบการณ์ส่วนตัว หากเกิดขึ้นจากคำพูดของ “พ่อ” ดร.ประยูร เถลิงศรี อดีตประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ที่พูดกับเธอว่า…พ่อต้องการให้คนไทยแข่งขันสู้ตลาดโลกได้
ทั้งนั้นเพราะภาพชินตา ที่ “อริญญา” เห็น “พ่อ” ต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่เรื่อย ไหนจะต้องไปประชุม ไปฝึกอบรม แม้กระทั่งต้องไปสอนนิสิต-นักศึกษาตามมหา”ลัยต่างๆ
เธอจึงเกิดคำถามขึ้นว่า…ทำไมพ่อต้องทำงานหนักขนาดนี้
“พ่อ” จึงตอบเธอว่า…พ่อต้องการให้คนไทยแข่งขันสู้ตลาดโลกได้
“อริญญา” ยอมรับว่าคำพูดของ “พ่อ” ครั้งนั้น ไม่สามารถทำให้เธอเข้าใจความหมายได้ แม้กระทั่งตอนเธอไปเรียนต่อปริญญาโททางด้านการตลาด ที่มหาวิทยาลัย Careton ประเทศแคนาดา เธอก็ยังไม่เข้าใจ
แต่กระนั้นคำพูดของ “พ่อ” ก็ยังก้องกังวานอยู่ในหัว
“พ่อต้องการให้คนไทยแข่งขันสู้ตลาดโลกได้”
กระทั่งเธอกลับเมืองไทย และเริ่มพูดคุยกับเพื่อนเพื่อจะสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง คำพูดของ “พ่อ”ก็ยังไม่จางหาย เธอจึงพยายามถอดรหัสว่าคำพูดของ “พ่อ” แท้จริงคือเรื่องใด
จนพบคำตอบว่าคำพูดนี้หมายถึง การสร้างทุนมนุษย์
“เราไม่อยากถามพ่อไง เราอยากค้นพบด้วยตัวเราเอง และตอนนั้นที่คิดจะสร้างบริษัท อายุเพียง 25-26 ปีเอง เราก็พยายามคิด จนพบคำตอบว่าถ้าเป็นเรื่องทุนมนุษย์ เราควรจะทำธุรกิจอะไรที่เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้”
“ที่สุดจึงสร้างบริษัทให้บริการทางด้านคำปรึกษา และการพัฒนาบุคลากร และองค์กร ก็ราวๆเกือบ 20 ปีมาแล้ว และตอนนั้นเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่มาก อีกอย่างเราก็ยังดูเด็กๆ ใครจะมาจ้าง เพราะไม่มีความน่าเชื่อถือ”
“ตอนนั้นรู้สึกว่าไม่มีความเป็นชีวิตเลย เพราะเราไม่มีความรู้ทางด้านทรัพยากรบุคคล อีกอย่างเราก็เรียนทางด้านการตลาดมา ที่สุดก็เหมือนเริ่มนับหนึ่งใหม่ เริ่มอ่านหนังสือเกี่ยวกับงานทรัพยากรบุคคล รวมถึงหนังสือต่างประเทศที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการ”
“พร้อมๆ กับศึกษารูปธุรกิจ ศึกษารีเสิร์ช และพยายามพูดคุยกับคนที่มีความรู้ในเรื่องเหล่านี้ ขณะเดียวกัน ก็หาลูกค้าไปพร้อมๆ กัน ซึ่งก็ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ตอนนั้นรู้สึกท้อ แต่โชคดีที่คนรอบข้าง เพื่อนฝูงให้กำลังใจเยอะมาก รวมถึงพ่อด้วย ก็เลยทำให้เราพยายามพิสูจน์ตัวเอง”
จนที่สุด โชคก็เข้าข้าง เมื่อบริษัทที่ปรึกษาระดับโลก American Management Association (AMA) ของสหรัฐอเมริกา กำลังต้องการหาพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุน
“ตอนแรกที่ดิฉันเข้าไปคุย เขาก็งงๆ บริษัทเราเล็กแถมยังเพิ่งเปิด ขณะที่เราเองก็เป็นผู้หญิงเพิ่งเรียนจบ ไม่เคยมีประสบการณ์การทำงาน แถมออฟฟิศก็มีพนักงานเพียง 2-3 คน แต่จะมาขอพบประธานบริษัท เพื่อจะเป็นพันธมิตรทางธุรกิจด้วย”
“สุดท้าย เขาก็ยินดีให้พบ เขาบอกว่าไม่ได้ต้องการผูกมัดอะไรกับเรา แต่เราก็พยายามบอกเขาว่าแผนธุรกิจเราเป็นแบบนี้ เรามีความคิด และความฝันแบบนี้ ปรากฏว่าไม่นานจากนั้น เขาก็ส่งคนเข้ามาสำรวจ มาพูดคุยด้วย และที่สุด เขาก็เลือกเรา ซึ่งดีใจมากๆ”
แม้จะผ่านด่านแรกไปได้ แต่กระนั้นก็ยังมีอีกหลายด่านที่ “อริญญา” จะต้องพิสูจน์ เพราะขณะนั้นธุรกิจที่ปรึกษาพัฒนาบุคลากร และองค์กรเป็นเรื่องใหม่มากสำหรับประเทศไทย
กอปรกับตัวเธอเองดูเด็กมาก
ใครเล่าจะเชื่อถือ?
“ตอนนั้นต้องพยายามทำตัวให้ดูแก่ น่าเชื่อถือ เพื่อให้ลูกค้ายอมรับตอนที่เราสอน ขณะเดียวกัน ดิฉันต้องทำการบ้านหนักมาก นอนคืนละ 3 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน และตลอด 3-4 ปี เพราะเราคิดว่าความรู้เราแค่ศูนย์ ดังนั้น ทางเดียวที่จะทำให้เราได้รับการยอมรับ คือจะต้องทุ่มเทอย่างเต็มที่”
“แต่ก็มีถูกลองของบ้างว่าจะได้เรื่องหรือ ประสบการณ์ทางธุรกิจก็ไม่มี คุณจะเอาอะไรมาเทรนนิ่งคนของฉัน แต่เชื่อไหม ดิฉันไม่เคยตอบโต้เลย ตรงข้ามกลับใจเย็น และบอกเขาไปว่า ถ้าดิฉันทำไม่ดี ไม่มีความสามารถ ดิฉันไม่คิดเงิน ขอเพียงแค่โอกาสให้ลองบ้างสักครั้งก็ยังดี”
ปรากฏว่าไม่เพียง “อริญญา” จะสอบผ่านโดยไม่ยากเย็น หากลูกค้าบางรายยังผูกปิ่นโตมาจนถึงทุกวันนี้
เพราะประสบการณ์ขณะนั้นสอนเธอว่า “ที่ปรึกษา” อาจมีอยู่เพียง 2 รูปแบบ
หนึ่ง Content Consultant หรือ Content Expert
สอง Process Consultant
โดยที่ปรึกษาแบบ Content Consultant หรือ Content Expert ส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มที่เชี่ยวชาญทางด้านเนื้อหาวิชาการที่มีความเก่งกาจในศาสตร์สาขาเฉพาะด้าน
ขณะที่ Process Consultant จะเป็นกลุ่มคนที่มีความรู้ในเรื่องนั้นๆ หรือผู้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง
เหตุนี้เอง จึงทำให้ “อริญญา” คิดว่า หากเธอจะสร้างบริษัทเอพีเอ็ม กรุ๊ป ให้เป็นบริษัทที่ปรึกษา และพัฒนาบุคลากร และองค์กรในระดับชั้นนำ เธอจะต้องพยายามอย่างยิ่งที่จะต้องก้าวให้เป็น Process Consultant
“ดิฉันมองว่าการที่จะเป็นที่ปรึกษาให้ดี อย่ายึดประสบการณ์ของตัวเองเป็นหลัก และห้ามใช้พื้นฐานที่พบมาก่อนเป็นบรรทัดฐานในการคิด ขณะเดียวกัน ถ้าหากเคยเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรอื่นในธุรกิจประเภทเดียวกัน ก็จงอย่าเชื่อว่าในธุรกิจประเภทเดียวกันนั้น จะต้องให้คำปรึกษาเหมือนๆ กัน”
“ที่สำคัญ วิธีการทำงานของ Content Consultant เท่าที่พบส่วนใหญ่เวลาเข้าไปเป็นที่ปรึกษาให้กับองค์กรไหน มักจะพูดว่าควรที่จะต้องเป็นแบบนี้ โดยลืมมองถึงสถานการณ์ของลูกค้า และจากประสบการณ์ทั้งในเมืองไทย และต่างประเทศ ยังพบเห็นที่ปรึกษาในลักษณะนี้อยู่เสมอ”
“เพราะลูกค้ายังคุ้นเคยต่อการให้บริการที่ปรึกษาแบบนี้ แต่ในอนาคต ดิฉันเชื่อว่าลักษณะของการเป็นที่ปรึกษาแบบนั้นจะต้องลดน้อยลงไป และจะมีที่ปรึกษาแบบ Process Consultant เพิ่มขึ้น เหมือนอย่างในสหรัฐอเมริกา”
คงจะจริง เพราะภาพปัจจุบัน การให้บริการคำปรึกษาแก่บุคลากร และองค์กรเริ่มเปลี่ยนไป และเริ่มเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น
ซึ่งเหมือนกัน “อริญญา” และ “บริษัท เอพีเอ็ม กรุ๊ป ในวันนี้ ที่ไม่เพียงจะประสบความสำเร็จในวิชาชีพ หากในด้านองค์กร เอพีเอ็ม กรุ๊ป ก็ต่างเป็นชอยซ์แรกๆ ของหลายๆ บริษัท และหลายๆผู้บริหาร ที่ถ้าจะปรึกษาในเรื่องอะไร ด้านไหน
“อริญญา” แห่งเอพีเอ็ม กรุ๊ป ก็จะถูกเลือกเป็นอันดับแรกๆ เสมอ
ถามว่าเพราะอะไร?
คำตอบคือเพราะเธอเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่า…คนไทยแข่งขันสู้กับตลาดโลกได้แล้วจริงๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น